Health

  • โรคกระดูกพรุน
    โรคกระดูกพรุน

    โรคกระดูกพรุน เกิดจากการที่กระดูกเริ่มเสื่อมและบางลง เนื่องจากการสูญเสียแคลเซียมที่สะสมในกระดูก ส่งผลให้กระดูกเปราะบางไม่สามารถรับน้ำหนัก และเกิดการแตกหักตามมา โรคนี้จะพบในเพศหญิงมากกว่าเพศชาย

    โรคกระดูกพรุน เป็นโรคที่ทำให้กระดูกเปราะและหักง่ายโดยที่อาจเกิดกระดูกหักเองหรือเกิดแรงกระทำที่ไม่รุนแรงเช่น หกล้มขณะยืนหรือเดิน

    โรคกระดูกพรุน

    สาเหตุโรคกระดูกพรุน

    – พันธุกรรมหรือเกิดขึ้นตามธรรมชาติที่อายุมากขึ้น กระดูกจะบางลงจากฮอร์โมนเพศที่น้อยลง เช่น กระดูกพรุนในผู้หญิงวัยหมดประจำเดือน

    – เกิดจากโรคหรือยาบางอย่าง เช่น โรคไทรอยด์เป็นพิษ โรคฮอร์โมนพาราไทรอยด์สูง โรคฮอร์โมนคอร์ติซอลสูง ยาสเตียรอยด์ ยารักษาโรคมะเร็งเต้านมบางชนิด (Aromatase Inhibitor) และอื่น ๆ

    อาการของโรคกระดูกพรุน

    – ระยะเริ่มต้น โรคนี้ในช่วงแรกจะไม่มีอาการอะไร จะแสดงอาการต่อเมื่อกระดูกหักไปแล้ว ดังนั้นหากสงสัยว่าตัวเองมีความเสี่ยง ควรพบแพทย์ เพื่อทำการตรวจมวลกระดูก หรือคำนวณความเสี่ยงที่จะเกิดกระดูกหัก

    – ระยะรุนแรง ระยะนี้กระดูกของผู้ป่วยจะบางมาก อาจส่งผลให้กระดูกสันหลังหักยุบ หรือเกิดกระดูกสะโพกหัก ผู้ป่วยมักจะมีอาการปวดหลัง หลังโก่งค่อม ส่วนสูงลดลงเนื่องจากการหักและยุบตัวของกระดูกสันหลัง บางครั้งอาจเกิดการปวดหลังร้าวมาที่บริเวณหน้าอก เป็นต้น

    กลุ่มเสี่ยงที่จะเกิดโรคกระดูกพรุน

    – ผู้หญิงอายุ 65 ปีขึ้นไปและผู้ชายอายุ 70 ปีขึ้นไป

    – ผู้หญิงที่มีภาวะฮอร์โมนเพศหญิงต่ำ เช่น ผู้หญิงหมดประจำเดือนก่อนอายุุ 45 ปี ผู้ที่ถูกตัดรังไข่ทั้งสองข้าง ผู้ป่วยโรคเรื้อรังทางอายุรกรรม คนที่ออกกำลังกายอย่างหนักเป็นระยะเวลานาน หรือได้ยา Aromatase Inhibitor

    – ผู้ชายที่มีโรคหรือได้ยาที่ทำให้ฮอร์โมนเพศชายต่ำ เช่น จากการรักษามะเร็งต่อมลูกหมาก โรคพันธุกรรมที่มีฮอร์โมนเพศชายต่ำ เช่น Klinefelter’s Syndrome

    – ผู้ที่ได้รับยาสเตียรอยด์ขนาดเทียบเท่าหรือมากกว่า Prednisolone 5 มิลลิกรัม/วัน ต่อเนื่องตั้งแต่ 3 เดือนขึ้นไป

    – มีบิดาหรือมารดากระดูกสะโพกหักจากอุบัติเหตุที่ไม่รุนแรง

    – น้ำหนักตัวน้อยมาก คือ ดัชนีมวลกายน้อยกว่า 20 กิโลกรัม/ตารางเมตร

    – ปัจจัยอื่น ๆ เช่น ดื่มสุรามาก สูบบุหรี่ กินแคลเซียมไม่เพียงพอ วิตามินดีในเลือดต่ำ ไม่ออกกำลังกาย

    อันตรายของโรคกระดูกพรุน

    โรคกระดูกพรุน หมายถึง โรคที่ความแข็งแรงของกระดูกลดลง จนทำให้เกิดความเสี่ยงต่อการเกิดกระดูกหัก โดยเหตุที่อุบัติเหตุเล็กน้อยก็อาจจะทำให้กระดูกหักได้ ความสำคัญกับอันตรายของโรคนี้ ถ้าเป็นปกติโดยทั่วไปเดินหกล้มบนพื้นราบธรรมดา เราไม่เป็นอะไร อย่างมากเราอาจจะข้อเท้าพลิก เจ็บมือนิดหน่อย เอามือยันพื้นได้ แต่กลุ่มคนที่เป็นโรคกระดูกพรุน เราลื่นล้มบนพื้นราบ ก็อาจจะทำให้เกิดกระดูกหักได้ มือยันพื้น ข้อมือหัก สะโพกกระแทกพื้น สะโพกหัก นี่คือความอันตรายของโรคกระดูกพรุน

    การรักษา และการดูแลตัวเอง

    โรคกระดูกพรุนเป็นโรค เราต้องรักษา การรักษาก็จะเป็นการรักษาด้วยยา เพราะฉะนั้น การกินยา หรือบางท่านจะเลือกใช้วิธีฉีดยารักษาโรคกระดูกพรุน เราก็ควรจะไปพบแพทย์อย่างสม่ำเสมอและกินยาอย่างสม่ำเสมอ

    ที่มา

    rama.mahidol.ac.th

    bangkokhospital.com

     ติดตามเรื่องราวดีๆได้ที่ cornerstoneumcwat.com

     

Economy

  • ททท.จับมือทินเดอร์ชวนคนโสดเที่ยวฉ่ำๆ 7 เส้นทาง
    ททท.จับมือทินเดอร์ชวนคนโสดเที่ยวฉ่ำๆ 7 เส้นทาง

    ททท.จับมือทินเดอร์ชวนคนโสดเที่ยวฉ่ำๆ 7 เส้นทาง

    น.ส.ฐาปนีย์ เกียรติไพบูลย์ รองผู้ว่าการด้านตลาดในประเทศ การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เปิดเผยว่า ททท.ได้ร่วมมือกับแอปพลิเคชันหาคู่ Tinder (ทินเดอร์) และบริษัท ไดร์ฟ ดิจิทัล จำกัด จัดทำโครงการเส้นทางคนโสด Single Journey Season 2 #อย่าล้อเล่นกับความเหงา

    ต่อเนื่องเป็นปีที่ 2 โดยจะมี 2 กิจกรรมนำร่องในช่วงเดือน เม.ย.66 ได้แก่ กิจกรรมที่ 1 งาน “Babe Fest ที่สุดแห่งเทศกาลเนื้อคู่” ระหว่างวันที่ 7-9 เม.ย.66 ณ โกดังเสริมสุข กรุงเทพมหานคร และกิจกรรมที่ 2 เส้นทาง “โสด on the beach พัทยานี้มีรัก” ชวนนั่งชิลๆริมทะเล ณ คาเฟ่ The Oxygen Pattaya ชลบุรี ในวันที่ 29 เม.ย.66 โดย ททท.คาดว่าจะมีผู้ร่วมกิจกรรมทั้งสองโครงการนี้ 500 คน และจะเป็นการจุดประกายให้คนโสดเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ

    “เป้าหมายสร้างรายได้คนไทยเที่ยวในประเทศของ ททท.ในปีนี้ อยู่ที่ 880,000 ล้านบาท แต่ถ้านับเฉพาะคนโสดเดินทางท่องเที่ยว ททท.มองว่าจะอยู่ที่ 10% ของเป้าหมายรวมหรือคิดเป็นเงินใช้จ่ายเพื่อการท่องเที่ยวของคนโสดอยู่ที่ 88,000 ล้านบาทในปี 2566”

    ททท.จับมือทินเดอร์ชวนคนโสดเที่ยวฉ่ำๆ 7 เส้นทางน.ส.ฐาปนีย์ กล่าวว่า ได้จัดทำเส้นทางท่องเที่ยวของคนโสดไว้ 7 เส้นทาง

    ประกอบด้วย

    1.“โสดสายแซ่บ ยืนหนึ่งแบบตัวแม่” จ.ตราด

    2.“โสดสายแคมป์ ถ้าอยู่บ้านแล้วเหงา มานอนเต็นท์กับเราก็ได้นะ” จ.สุพรรณบุรี

    3.“ไหว้พระ หารัก ฉบับสายมู” จ.มุกดาหาร-จ.นครพนม

    4.เส้นทางสายโรแมนติก ชมทะเลหมอก จ.แม่ฮ่องสอน

    5.“เกาะลิบงตรงใจ” จ.ตรัง ใช้ชีวิตแบบชาวเล

    6.เส้นทางท่องเที่ยว “ระยอง ลองแล้วจะรัก” จ.ระยอง ชิมผลไม้

    และ 7.เส้นทางท่องเที่ยว “โสดสายบุญ ขอพรให้คุณมาเป็นคู่กัน” จ.เชียงใหม่.

    ขอบคุณรูปภาพจาก : thairath.co.th

    ขอบคุณแหล่งที่มา : thairath.co.th

    สามารถอัพเดตข่าวสารเรื่องราวต่างๆได้ที่ : cornerstoneumcwat.com